โปเกมอนแบบ 3D Openworld ใน Pokemon Legends Arceus

เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของแฟรนไชส์ Pokemon แม้จะเติมคำว่า Legends เพื่อให้รู้ว่าเป็นอีกซีรีส์แต่ก็ถือว่าเป็นความเด็ดเดี่ยวของทีมงานที่กล้าลองทำ Pokemon จากสูตรสำเร็จแบบเดิมๆที่ใช้มา 20 กว่าปีตั้งแต่บนเครื่อง Gameboy Original ที่เมื่อออกภาคใหม่ๆก็มักจะแค่อัพเกรดกราฟิกและเพิ่มเติมสิ่งต่างๆเข้าไปเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ใช่กับเกมนี้ บอกได้เลยว่านี่คือเกมใหม่ที่ใช้กลิ่นอายของ Pokemon มาเท่านั้นก็มาดูกันว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากแฟนๆและผู้เล่นหน้าใหม่ได้ขนาดไหน และจะกลายเป็นทิศทางใหม่ของแฟรนไชส์นี้ได้หรือเปล่าใน Pokemon Legends Arceus

เนื้อเรื่อง และ Game Design ของ Pokemon Legends Arceus

นอกจากการเพิ่มเติมระบบและแมคคานิคต่างๆเข้ามาแล้ว Pokemon Legends Arceus ยังย้าย setting ย้อนเวลาไปกว่า 100 ปี จาก Timeline หลักของโปเกม่อนที่เราคุ้นเคยโดยเราจะได้ผจญภัยในภูมิภาค ฮิซุย ที่ในยุคปัจจุบันเราจะรู้จักกันในนาม ภูมิภาคชินโอ จากภาค Diamond และ Pearl นั้นเอง

ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นผู้มาเยือนจากท้องฟ้า โดยจะเริ่มการผจญภัยในฐานะทีมสำรวจและวิจัย Pokemon มือใหม่ที่มีศูนย์กลางอยู่ใน หมู่บ้านจูบิไลฟ์ หรือที่ในอนาคตจะกลายเป็นจูบิไลฟ์ซิตี้ที่เราคุ้นเคย ช่วงเวลาของเกมนั้นได้รับอิทธิพลมาจากยุคสมัยเมจิของญี่ปุ่นทั้ง ตึก บ้าน ของใช้และการแต่งตัวผสมกับเทคโนโลยีอุตสาหกรรมจากโลกตะวันตกทำให้เราจะได้เห็นหลายๆอย่างที่เคยมีใน Pokemon ยุคปัจจุบันถูกแปลงให้อยู่ในยุคสมัยโบราณ และเป็นที่มาของการตามหาวัตถุดิบต่างๆจากในป่าเพื่อมาคราฟต์เป็นสิ่งต่างๆเช่น ยา หรือ Pokeball ที่ช่วยส่งเสริมให้เราอยากจะสำรวจโลกกึ่ง Open World ใน Pokemon Legends Arceus มากขึ้นและยังช่วยเพิ่มความสดใหม่ให้กับเกมจากแฟรนไชส์ Pokemon เป็นอย่างมาก

และนอกจาก Settings แล้ว เรื่องราวของเกมยังเปลี่ยนแปลงไปจากแบบเดิมๆ โดยจะมาโฟกัสความเป็นมาของทวีปชินโอและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับโปเกม่อนมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งในอดีตมนุษย์ยังไม่ได้อยู่ร่วมกับโปเกม่อนแบบสงบสุขเหมือนในยุคปัจจุบันและแม้ว่าจะไม่ได้ถึงกับกลายเป็นเกม RPG ที่มีเนื้อเรื่องยอดเยี่ยมแต่ Pokemon Legends Arceus ก็น่าจะทำให้ผู้เล่นหน้าเก่าที่เบื่อกับพลอตเรื่องแบบเดิมๆได้เพลิดเพลินกับเรื่องราวได้มากกว่าเกม Pokemon ที่ผ่านๆมา

อีกสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมคือ flow ในการเล่นเพราะการไปตียิมลีดเดอร์ในเมืองต่างๆเข้าร่วมการแข่ง Pokemon League จะไม่มีใน Pokemon Legends Arceus แต่จะเน้นไปที่การช่วยสร้าง Pokedex ฉบับแรกของทวีปขึ้นมา ที่ไม่ใช่แค่ตามจับ Pokemon เฉยๆแต่ Pokemon แต่ละชนิดจะมีเงื่อนไขในการสร้างข้อมูลใน Pokedex ที่แตกต่างกันเช่น จำนวนที่จับได้ จำนวนที่จัดการได้ หรือจำนวนพิเศษที่ใช้เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นจำนวน Pokemon ใน Pokemon Legends Arceus จะมีทั้งหมด 242 ชนิด รวมทั้งโปเกม่อนในตำนานด้วย ทำให้นอกเหนือจากเนื้อเรื่องหลักที่ใช้เวลาประมาณ 25-30 ชั่วโมงแล้ว ตัวเกมยังมีเควสเสริมกิจกรรมและ Pokedex ให้เติมเต็ม รวมไปถึงโพสต์ Content หลังจบเกมให้ทำอีกมากมาย 

Gameplay ของ Pokemon Legends Arceus

สำหรับสาวก Pokemon ที่เบื่อกับ Gameplay แบบเดิมๆก็น่าจะตื่นเต้นกับระบบการต่อสู้ใน Pokemon Legends Arceus ที่ให้อารมณ์ Action และรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงระบบต่างๆที่ทีมงานรวม Feedback จากแฟนๆ Pokemon มาปรับใช้ในเกมนี้ ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ลงตัวมากๆ 

นอกจาก Pokedex เรายังมีอุปกรณ์ที่คล้ายๆกับ PDA หรือแท็บเล็ตที่ช่วยให้การนำทางภายในแผนที่และติดตามเควสต่างๆสะดวกสบายมากขึ้นและไม่ว่าเราจะจับ จัดการหรือใช้งานโปเกม่อนก็จะได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์กลับมาทุกครั้ง ทำทุกสิ่งที่ทำในเกมนี้ล้วนมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มข้อมูลลงใน Pokedex หรือเพิ่ม Level ให้กับ Pokemon ในทีมที่จะส่งผลต่อการพัฒนาร่างและการได้ท่าการโจมตีใหม่ๆ 

ถึงแม้ว่าตัวเกม Pokemon Legends Arceus จะมีการ Reuse Mechanic ของการเล่นแบบเดิมๆอยู่บ้างแต่เมื่อสลับเข้ากับการสำรวจและทำภารกิจต่างๆก็ต้องบอกเลยว่า เล่นได้สนุกตลอดทั้งเกมและไม่รู้สึกเบื่อเลย รวมถึงภายในแผนที่เองก็เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ให้ผู้เล่นตื่นเต้นได้ตลอดเวลาเช่นกัน

ขอบคุณรูปภาพจาก pokemon legends arceus

Performance ของเกม Pokemon Legends Arceus 

หากจะหาข้อสังเกตใน Pokemon Legends Arceus สิ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คงไม่พ้นงานด้านกราฟิกที่ตัวเกมสล็อตออนไลน์มีการสลับใช้ทั้งส่วนที่ละเอียดละออ และส่วนที่หยาบหรือตกยุคเข้าด้วยกัน เช่นหน้าตาตัวละคร Pokemon แสงเงา ท้องฟ้า ต้นไม้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถึงกับเป็นเกมที่กราฟฟิกสวยงามอลังการบนเครื่อง Nintendo Switch แต่ก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานของเครื่องไฮบริดสลับกับพื้นดินและรายละเอียดของเสื้อผ้าบางจุดที่ทั้งหยาบไม่คมชัด เหมือนตัดมาแปะ แต่ก็ต้องบอกว่าเมื่อมองงานภาพโดยรวมแล้วทั้ง Art Style และแสงเงาของเกมไม่ได้มานั่งสังเกตจับผิดจุดๆ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมบนเครื่อง Nintendo Switch ที่สวยงามและน่ารื่นรมย์เกมนึงเลยแถมยังแลกมากับ Performance ที่ลื่นไหลอยู่ที่ 30 fps แบบนิ่งๆแต่ก็ยังมีการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนอยู่บ้างเช่น เงาของต้นไม้บางครั้ง หรือ Texture ที่โหลดไม่ทัน อีกสิ่งที่ยังคงยอดเยี่ยมสำหรับเกมจาก Nintendo Switch และแฟรนไชส์ Pokemon คืองานทั้ง Sound Design น้ำเสียง Soundtrack Ambient และ Sound effect ต่างๆที่ให้อารมณ์ของการผสมผสานระหว่าง Pokemon และยุคสมัยโบราณได้อย่างลงตัว แต่เสียดายอยู่เรื่องเดียวเลยคือน่าจะมีการใส่เสียงพากย์เข้ามาให้สักหน่อยอาจจะไม่ต้องถึงกับเป็น Full Voice แค่จังหวะสำคัญๆก็ยังดีซึ่งในส่วนนี้ก็คงต้องรอกันต่อไป