หนึ่งในเกมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังจากผู้เล่นสูงมากๆ ทั้งชื่อเสียงของแฟรนไชส์และภาคก่อนหน้า ภาคล่าสุดที่ทำให้ได้อย่างยอดเยี่ยมกับภาค World เมื่อปี 2018 ที่ยกระดับประสบการณ์ของ Monster Hunter รวมไปถึงเพิ่มฐานผู้เล่นหน้าใหม่มากขึ้น จริงๆแล้วก็คงจะง่ายกว่าหากเพียงแค่นำเอาสิ่งต่างๆมาจากภาค World และเพิ่มอะไรเล็กๆน้อยๆเพื่อลงเครื่องที่มีฐานผู้เล่นมหาศาลอย่าง Nintendo switch ก็น่าจะขายดีอยู่แล้ว แต่ภาคนี้ทีมงานยังอัดแน่นไปด้วยสิ่งใหม่ๆที่จะเปลี่ยนแปลง Monster Hunter ให้พุ่งทะยานขึ้นไปอีกครั้งแต่จะกลายเป็น Monster Hunter อีกหนึ่งภาคที่ควรนำไปขึ้นหิ้งหรือเปล่าใน Monster Hunter Rise
ฉากหลังของ Monster Hunter Rise จะมี Theme เป็นแบบญี่ปุ่นโบราณโดยเหตุการณ์ในภาคนี้จะเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Kamura ที่ซึ่งผู้คนจะอยู่ร่วมกับเพื่อนคู่กายอย่าง Paramiko สัตว์รูปร่างคล้ายแมวและ Palamute หรือสุนัข เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากจดหมายฉบับหนึ่งที่กล่าวถึง The Rampage หายนะที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อ 50 ปีที่แล้ว มันก็คือฝูง Monster จำนวนมากบุกเข้ามาโจมตีหมู่บ้านและสร้างความเสียหายมหาศาล คราวนี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้เล่นและเหล่านักล่าคนอื่นๆที่ต้องจัดการกับเรื่องนี้ เนื้อเรื่องของ Monster Hunter Rise กลายเป็นข้อสังเกตหลักของเกมในการเล่าเรื่องโดยรวมดูค่อนข้างน่าผิดหวังและเบาบางไปหน่อย ที่แม่ว่าชื่อของ Monster Hunter จะไม่เคยโดดเด่นด้านนี้อยู่แล้ว แต่ Monster Hunter Rise อาจจะทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับภาคก่อนๆอย่าง World ที่ยกระดับการเล่าเรื่องขึ้นมาจากเดิมแต่เรื่องนี้ก็จะเป็นจุดสังเกตเดียวของเกมเลย
แน่นอนว่าระบบ Wirebug คือจุดเด่นของ Monster Hunter Rise จินตนาการง่ายๆเหมือนกับ Grappling Hook หรือตะขอเกี่ยวเพื่อช่วยจับสิ่งต่างๆและเคลื่อนย้ายผู้เล่นไปในทิศทางที่ต้องการที่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรูปแบบของการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนการสำรวจโลกและ Level Design ของแมพใน Monster Hunter ไปมากมาย พื้นที่ต่างๆถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ Wirebug เดินทางไปยังตำแหน่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากระบบ Wirebug ตัวเกมยังเต็มไปด้วยแรงจูงใจให้ผู้เล่นอยากจะออกไปสำรวจแผนที่ในเกม ไม่ว่าจะเป็น Spirit Bird ที่เป็นสัตว์ตัวจิ๋วเรืองแสงที่เราสามารถเก็บมาเพิ่มบัฟต่างๆเช่น เพิ่มพลังชีวิต การโจมตี การป้องกัน หรือ ค่าStamina และยังช่วยในการต่อสู้ให้มีความหลากหลายและมี Dynamic มากขึ้น
Theme ของ Monster Hunter Rise จะมาในรูปแบบญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งลงตัวกับโลกของ Monster Hunter มากๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากตัวละคร หรือ Monster ในเกม ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดเกินหน้าเกินตาเกมจาก Nintendo switch และแน่นอนว่าเกมนี้ถูกพัฒนาด้วย Engine สุเทพของ Capcom อย่าง ReEngine นั่นเอง และแม้ว่าจะไม่ได้มีความละเอียดมากมาย แต่ก็ถือว่ามี Frame Rate ที่ลื่นไหล
งานด้านเสียงก็ทำออกมาเข้ากับงานด้านภาพได้อย่างดีและลงตัวสุดๆเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรีหรือ Sound effect ที่ถ่ายทอดความเป็นญี่ปุ่นโบราณได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ รวมไปถึงเสียงพากย์ก็เช่นกันที่มีให้เลือกได้ทั้งเสียงอังกฤษ ญี่ปุ่น และภาษาของเกม Monster Hunter เอง
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับจาก Monster Hunter ทุกๆภาคคือระบบในการต่อสู้ของเกมสล็อตออนไลน์นี้ค่อนข้างซับซ้อนอยู่แล้ว แต่การเพิ่มระบบใหม่ๆเข้ามาใน Monster Hunter Rise นั้นกลับใส่มาให้เข้ากับตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยให้การเล่นดูกลมกล่อมขึ้นและเข้ากับจังหวะแบบ Monster Hunterได้อย่างดี ไม่ได้รู้สึกว่าเพิ่มความซับซ้อนให้กับเกมเลย
แน่นอนว่า Wirebug คือสิ่งหลักที่เข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงจังหวะการต่อสู้ของภาคนี้เป็นอย่างมากทั้งรวดเร็ว และดุเดือดยิ้งขึ้น แม้ว่าจะเป็นอาวุธที่โจมตีช้าอย่างดาบยักษ์ก็ตาม แต่ยังไงก็ยังให้ความรู้สึกว่าเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว และใน Monster Hunter Rise ยังมีการใส่การโจมตี Silk bind ที่การใช้งานจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของอาวุธที่ใช้เช่น บางอย่างจะใช้เป็นท่าโจมตี บางอย่างจะใช้เป็นการลับคมดาบเป็นต้น และในการใช้งานทั้ง Silk bind และ Wirebug นั้นจะบริโภคทรัพยากรเดียวกันดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือการบริหารจัดการ Resource ตรงนี้ให้เหมาะสมและจุดนี้ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ Monster Hunter Rise แตกต่างจากภาคก่อนๆของ Monster Hunter อีกด้วย
นอกจาก Wirebug แล้ว ยังมี Wirefall อีกหนึ่ง Mechanic ที่ทรงพลังมากๆโดยขณะที่เราถูกทำให้ล้ม เราจะสามารถใช้ Wirefall เพื่อ Recover กลับมายืนและหลบหลีกอันตรายได้ทันที เป็นระบบที่มีประโยชน์มากๆ แม้บางครั้งจะรู้สึกว่ามันมากเกินไปก็ตาม และแน่นอนว่าจุดเด่นที่แฟนๆชื่นชอบการไล่ล่าใน Monster Hunter คือความสนุกในการเรียนรู้และศึกษารูปแบบ จังหวะการโจมตีของ Monster แต่ละตัว ซึ่งระบบ Wirefall นี้ก็ไม่ได้ลดความรู้สึกตรงนี้ไปเลย แม้จะมีส่วนช่วยให้เราเล่นได้ง่ายขึ้นก็ตาม
การขี่ Monster คืออีกหนึ่ง Mechanic ที่สำคัญที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Monster Hunter Rise เป็นระบบที่มีความสร้างสรรค์และยังมีประโยชน์ในการเล่นจริงมากๆ โดยเมื่อเราทำให้ Monster อยู่ในสถานะที่ขี่ได้แล้ว ผู้เล่นสามารถปีนป่ายบนหลังของมันเพื่อควบคุม Monster ได้ โดยภาคนี้เราก็สามารถใช้โจมตีศัตรูตัวอื่นๆได้ด้วย หรือจะบังคับให้วิ่งชนสิ่งต่างๆก็ได้เช่นกัน ซึ่งระบบนี้ให้อารมณ์เหมือนการต่อสู้ของเหล่า Kaiju ที่ดูน่าตื่นเต้นมากๆ