ต้องยอมรับเลยว่า สเก็ตบอร์ด ถือเป็นของเล่นยอดฮิต ที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นยุคสมัยนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งการจะเล่นได้อย่างชำนาญการ และออกมาพลิ้วไหวได้นั้น ก็จำเป็นจะต้องใช้ทักษะ และการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงเช่นเดียวกัน สำหรับใครที่มีความสนใจ และต้องการเล่นของเล่นดังกล่าว ก็จำเป็นจะต้องทำความรู้จักข้อมูลพื้นฐานให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะประเภทของของเล่นดังกล่าว เนื่องจากแต่ละประเภทก็จะมีวิธีการเล่นที่แตกต่างกันออกไป หากได้เล่นในรูปแบบที่ตนเองถนัด ก็จะถือเป็นการดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งจะมีประเภทอะไรบ้าง ไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันเลย
ประวัติความเป็นมาของ สเก็ตบอร์ด
สำหรับ สเก็ตบอร์ด ถือเป็นของเล่นที่มีต้นกำเนิดมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มจากแถบแคลิฟอเนีย ในปี ค.ศ.1950 ซึ่งต้องบอกก่อนว่าของเล่นดังกล่าว ดั้งเดิมคือเกมกีฬาประเภทหนึ่ง ที่ได้ทำการดัดแปลงมาจากนักเซิร์ฟ ที่พยายามเล่นเซิร์ฟบนท้องถนน จึงส่งผลให้ของเล่นดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับเซิร์ฟขนาดเล็กนั่นเอง และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของของเล่นดังกล่าว ก็ส่งผลให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น เด็กหรือผู้ใหญ่ ก็ล้วนให้ความสนใจ และเล่นกันอย่างแพร่หลาย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า การที่จะเล่นให้ต่อเนื่อง จำเป็นจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก รวมถึงทุ่มเทแรงกาย และแรงใจ กล่าวคือ ต้องมีใจรักนั่นเอง อีกทั้งยังจะต้องระมัดระวังในการเล่นพอสมควร เนื่องจากเป็นการเคลื่อนไหวบนของเล่น ที่ยากจะควบคุม และถ้าหากเล่นอย่างไม่ถูกวิธี หรือไม่มีความชำนาญในการควบคุมความเร็ว และการทรงตัวเป็นอย่างดี ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อตนเอง และต่อคนรอบข้างได้อย่างง่ายดายนั่นเอง
ประเภทของ สเก็ตบอร์ด ที่ควรทำความเข้าใจ
อย่างที่ทุกคนเห็นในปัจจุบันว่า สเก็ตบอร์ด มีวิธีการเล่นที่หลากหลาย รวมถึงมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็เป็นเพราะว่า มีหลากหลายประเภทให้เลือกเล่นนั่นเอง โดยแต่ละประเภทก็มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
SKATEBOARD
เริ่มต้นจาก สเก็ตบอร์ด แบบดั้งเดิม ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของของเล่น หรือกีฬาประเภทนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีความคลาสสิคในส่วนของรูปทรง ไปจนถึงล้อ สำหรับแผ่นบอร์ดโดยส่วนใหญ่ จะนิยมทำจากไม้เมเปิ้ล เนื่องจากมีความแข็งแรง และทนทาน รวมถึงมีความยืดหยุ่นพอสมควร โดยมีขนาดความกว้างตั้งแต่ 7.5 นิ้ว ไปจนถึง 8.5 นิ้ว และความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 32 นิ้ว สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดเล่น แนะนำให้เลือกแผ่นบอร์ดขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการเพิ่มความถนัดในการยืนนั่นเอง
สำหรับการเคลื่อนไหวบนบอร์ดจะคล้ายกับการเล่นเซิร์ฟ บวกกับการขับรถ ดังนั้น ทุกท่านจะต้องควบคุมน้ำหนักให้ดี เพื่อให้การทรงตัว และการเลี้ยวเป็นไปอย่างราบรื่น และสำหรับท่าประจำที่สามารถเล่นได้ทั้งมือใหม่ และมืออาชีพ ก็คือ ออลี่ (Ollie) หรือท่ากระโดดที่ไม่ได้ยากเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป
LONGBOARD
สำหรับ “ลองบอร์ด” ถือเป็นกีฬา สเก็ตบอร์ด ที่ค่อนข้างมีความโลดโผนกว่าแบบแรก และเล่นยากกว่าพอสมควร ด้วยขนาดความกว้างเพียง 8-8.5 นิ้ว และขนาดความยาว 34-40 นิ้วเท่านั้น เรียกได้ว่า หากเป็นมือใหม่ก็อาจจะทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปได้ยาก สำหรับตัวล้อก็จะยื่นออกมาจากแผ่นบอร์ด จึงเหมาะสำหรับผู้เล่นที่เชี่ยวชาญบอร์ดธรรมดา และต้องการเพิ่มความยากในการเล่นนั่นเอง
สำหรับท่าเล่นที่นิยมเล่นกับบอร์ดประเภทนี้ จะนิยมเล่นท่าหมุนไปมาอย่างต่อเนื่อง บวกกับสไลด์ลงเนินไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเล่นที่ค่อนข้างท้าทายเป็นอย่างมาก แต่สำหรับมือใหม่แนะนำให้ฝึกท่าง่าย ๆ อย่าง Carve ดูก่อน เนื่องจากเป็นการเล่นระยะทางไกล ไม่มีการผสมลีลาในการเล่นมากเท่าไหร่นัก
PENNY BOARD
ถือเป็นของเล่นที่เหมาะสำหรับสาว ๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการผสมผสานระหว่างรูปทรงของลองบอร์ด และ สเก็ตบอร์ด แต่จะมีขนาดที่เล็กกว่า และมีเพียง 2 ขนาดให้เลือกเท่านั้น คือ ขนาด 22 นิ้ว และขนาด 27 นิ้ว โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย ในส่วนของวัสดุก็จะทำมาจากพลาสติก ทำให้มีน้ำหนักที่เบากว่าบอร์ดทั่วไปที่ทำจากไม้ ซึ่งข้อดีของบอร์ดประเภทนี้ คือ สามารถพกพาได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับเล่นแบบไถไปมา ประกอบกับมีท่าเบสิค ที่ไม่ผาดโผนเท่าไหร่นัก ถือเป็นของเล่นที่เล่นเพื่อสนุกสนาน สบาย ๆ เท่านั้น
FINGER BOARD
ฟิงเกอร์บอร์ด หรือสเก็ตบอร์ดนิ้ว ถือเป็น สเก็ตบอร์ด ขนาดเล็กที่สุด มีความยาวประมาณ 4 นิ้ว แต่สำหรับวิธีการเล่นนั้น บอกเลยว่ายากมาก ยากกว่าบอร์ดประเภทอื่น ๆ เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว เนื่องจากต้องใช้นิ้วในการควบคุมบอร์ดนั่นเอง และด้วยความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของบอร์ดประเภทนี้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่นิยมซื้อมาเก็บสะสมเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากให้ความเท่ แปลกใหม่ และไม่เหมือนใคร กล่าวคือ แปลก และแหวกแนวนั่นเอง
จากบทความที่เพิ่งกล่าวไปทั้งหมดเมื่อข้างต้น จะเห็นได้เลยว่า สเก็ตบอร์ดมีหลากหลายประเภท ให้เลือกเล่น และแต่ละประเภท ก็จะมีลักษณะ และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดประเภทใดก็ตาม หากต้องการเล่นให้ได้อย่างพลิ้วไหว ก็จะต้องทำการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพราะของเล่นดังกล่าว ผู้เล่นจะต้องมีความอดทน และใจเย็นพอสมควร เล่นสล็อตออนไลน์ได้24ชม. เพราะถ้าหากหุนหันพลันแล่น ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง