สหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีความก้าวหน้าทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและวิทยาการด้านวิทยาศาสตร์อันดับต้น ๆ ของโลก เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีเรื่องราวน่าค้นหาและชาวไทยอยากที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว สัมผัสกับธรรมชาติ บรรยากาศที่น่าหลงใหล และสีสันของเมืองใหญ่ที่แปลกตา เรียกได้ว่า สหรัฐฯอัดแน่นไปด้วยสังคม วัฒนธรรมที่แตกต่างไปจากบ้านเรา ทั้งระบบการบริหารแบบประชาธิปไตย พร้อมเรื่องราวความน่าสนใจ ที่หลายคนอาจจะอยากรู้
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ บุคคลที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นคนค้นพบอเมริกาคนแรกมีนามว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจชาวอิตาเลียน ซึ่งตรงกับวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1492 และสหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งวันที่ 12 ตุลาคม ให้เป็นวันหยุดราชการ โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1937 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกัน และยังหาข้อสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นคนที่ค้นพบอเมริกาจริงหรือไม่ เพราะอาจมีความเป็นไปได้ว่า มีบุคคลอื่นที่เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว แต่เพียงแค่ยังไม่มีข้อมูลในการอ้างอิงอย่างชัดเจน นอกจากนั้น คริสโตเฟอร์เองหลังจากที่ได้ไปสำรวจดินแดนดังกล่าว เขาไม่ได้มีความเชื่อว่า อเมริกาเป็นแผ่นดินใหม่ที่ยังไม่ได้ค้นพบ แต่เป็นทวีปเอเชีย ทำให้ไม่มีการจารึกอย่างชัดเจนว่า เขาเป็นผู้ค้นพบอเมริกา แต่เป็นเพียงผู้มาเยือนเท่านั้น
สำหรับคำว่า อเมริกา เป็นการตั้งตามชื่อของชายผู้มีนามว่า อเมริโก เวสปุชชี นักสำรวจ นักเดินเรือ และนักทำแผนที่ชาวอิตาลี เขาเป็นบุคคลที่ยืนยันว่า แผ่นดินที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ได้เคยมาสำรวจนั้น ไม่ใช่ทวีปเอเชียแต่เป็นแผ่นดินใหม่ โดยตามหลักฐานที่สามารถทำการสืบค้นข้อมูลได้อยู่ในช่วงปีพุทธศักราช 2050 นักเขียนแผนที่ชาวเยอรมันชื่อว่า มาร์ติน วัลด์ซีมูลเลอร์ ได้เลือกใส่คำว่า อเมริกาลงบนแผนที่โลกของตนเอง ซึ่งเป็นชื่อของอเมริโก เวสปุชชี เพื่อเป็นการให้เกียรติ และกลายเป็นทวีปอเมริกาที่เราเรียกกันจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนั้น คำว่า อเมริโก เป็นภาษาละติน แต่เนื่องด้วยสหรัฐอเมริกาใช้ภาษาอังกฤษ จึงได้เปลี่ยนมาเป็นอเมริกาแทนนั่นเอง
วันประกาศอิสรภาพ (Independent) ของสหรัฐอเมริกา ถูกจัดให้เป็นวันชาติและวันหยุดอย่างเป็นทางการ เพื่อรำลึกถึงการประกาศอิสรภาพ ทุกวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776
ชนเผ่าพื้นเมืองในทวีป
สำหรับชนเผ่าดั้งเดิมในทวีปอเมริกา จะประกอบด้วย 2 ชนเผ่า คือ
ลักษณะนิสัยทั่วไป
ลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของคนชาวอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ค่อนข้างเป็นคนมีเหตุผล มีความเป็นตัวของตัวเอง ใจกว้าง และเคารพความแตกต่าง ที่สำคัญยังรักความเสรีด้วย ซึ่งมีผลอันสืบเนื่องมาจากการผสมผสานเชื้อชาติ วัฒนธรรม ภาษาของชาวยุโรป และคนในแถบพื้นเมืองอเมริกาเดิม ทำให้ค่อนข้างมีนิสัยที่เปิดกว้าง และยอมรับความแตกต่างได้ง่าย
พืชเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
เนื่องจากประเทศสหรัฐฯค่อนข้างมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้เต็มไปด้วยอุตสาหกรรม และการทำการเกษตรหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจสำคัญ ที่ครองอันดับ 1 ของโลกอย่างข้าวโพด ก็จะนิยมปลูกในบริเวณภาคกลาง และดินแดนตอนใต้ของทะเลสาบทั้ง 5 ได้แก่ ออนเทลรีโอ อีรี ฮูรอน สุพีเรีย และมิชิแกน นอกจากนั้น ยังปลูกพืชเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม และการเกษตรต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น ข้าวสาลี ฝ้าย ถั่วเหลือง ยาสูบ อ้อย ข้าวเจ้า ผักและผลไม้ต่าง ๆ ที่จะแบ่งพื้นที่การปลูกตามสภาพอากาศ รวมไปถึงพืชผลเมืองร้อน
การเลี้ยงสัตว์
สัตว์เศรษฐกิจที่มีการเลี้ยงอยู่ในอเมริกา ได้แก่ โคเนื้อ โคนม สุกร เป็ด ไก่ และแกะ
การทำป่าไม้และเหมืองแร่
พื้นที่ในเขตภูมิประเทศของชาติอเมริกาโดยส่วนใหญ่ จะเต็มไปด้วยเขตป่าไม้แบบไม้เนื้ออ่อน จนขึ้นแท่นเป็นอันดับ 2 ของโลก นอกจากนั้น ยังมีการทำเหมืองแร่ที่จำเป็นมากมาย อาทิเช่น ถ่านหิน น้ำมันปิโตรเลียม เหล็ก ทองคำ เงิน ทองแดง สังกะสี ตะกั่ว ฟอสเฟส และบอกไซต์
สำหรับสินค้าส่งออกหลักของสหรัฐอเมริกาจะประกอบไปด้วยถ่านหิน เครื่องจักรกล ไม้ ยาสูบ รถยนต์ เครื่องบิน น้ำมันเชื้อเพลิง เหล็กกล้า ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบ ได้แก่ กาแฟจากอเมริกาใต้ ผลไม้เมืองร้อนจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ชาจากศรีลังกาและอินเดีย ดีบุกและยางพาราจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขนแกะจากออสเตรเลีย เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่ช่วยทำให้ใครหลายคนมีความเข้าใจมากขึ้น ตั้งแต่ผู้ค้นพบ ที่มาของชื่อ การทำอุตสาหกรรม การนำเข้า ส่งออกสินค้าต่าง ๆ รวมไปถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในประเทศ ทำให้คุณได้เห็นว่า แต่ละชนชาติล้วนมีเรื่องราวและวัฒนธรรมที่เป็นของตนเอง ให้ได้ศึกษาในมุมมองใหม่และเข้าใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบในแต่ละประเทศ ทำให้เห็นถึงความแตกต่างและความแปลกใหม่ให้คุณอยากจะเดินทางไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองให้ได้สักครั้ง
ขอบคุณรูปภาพจาก mamiiz