เป็นเรื่องที่ใครหลายคนต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สำหรับประกันสังคม หรือเงินสมทบประกันสังคม ที่จะต้องถูกหักเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นประจำทุกเดือน และน้อยคนนักที่จะมีความเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ อย่างเจาะลึก เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันสิทธิ์ของทุกคนให้มากยิ่งขึ้น เราจึงมีความตั้งใจที่จะพาทุกคน ไปทำความเข้าใจ “สิทธิ์ประกันสังคม” ที่พึงจะได้รับ หากเกิดกรณีต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

7 กรณีที่ผู้คนจะได้รับ หากส่งเงินสมทบประกันสังคม
ต้องบอกก่อนว่า การที่คุณส่งเงินสมทบประกันสังคมเป็นประจำทุกเดือนนั้น คุณจะได้รับ “สิทธิ์ประกันสังคม” 100% ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในกรณีใด ๆ ก็ตาม ซึ่งปัจจุบันก็จะมีทั้งหมด 7 กรณีด้วยกัน ตามเงื่อนไขต่าง ๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- กรณีเจ็บป่วย
เงื่อนไข: คุณจะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
สิทธิประโยชน์:
- หากเป็นการเจ็บป่วยทั่วไป สามารถรักษาตาม “บัตรรับรองสิทธิ์” ได้ทันที โดยไม่จำเป็นจะต้องสำรองจ่ายแต่อย่างใด
- หากเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือประสบอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตาม สามารถรักษาตามหน้าบัตร โดยไม่จำเป็นจะต้องสำรองจ่ายเช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลที่ใกล้จุดเกิดเหตุ (นอกเหนือจากการคุ้มครองตามสิทธิ์หน้าบัตร) คุณจะต้องสำรองจ่ายก่อน โดยนำหลักฐานมาเบิกกับประกันสังคมในภายหลัง (ในอัตราที่กำหนด)
- กรณีคลอดบุตร
เงื่อนไข: คุณจะต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 15 เดือน
สิทธิประโยชน์:
- สามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ 13,000 บาท ต่อการคลอดบุตร 1 ครั้ง (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
- ได้รับเงินสงเคราะห์จากการลาคลอดแบบ “เหมาจ่าย” ในอัตราร้อยละ 50 ของเงินเดือน นาน 90 วัน (เฉพาะบุตรคนที่ 1 และคนที่ 2 เท่านั้น)
- กรณีทุพพลภาพ
เงื่อนไข: คุณจะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
สิทธิประโยชน์:
- รับเงินทดแทนขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นรายเดือนตลอดชีวิต (กรณีร้ายแรง)
- หากทุพพลภาพไม่ร้ายแรง จะได้รับตามหลักเกณฑ์ และระยะเวลาที่ประกันสังคมกำหนด
- หากผู้ทุพพลภาพเสียชีวิต ผู้จัดการศพจะได้รับค่าทำศพ 4,000 บาท และได้รับเงินสงเคราะห์เสียชีวิตหากผู้ทุพพลภาพจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 3 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี จะได้รับเท่ากับค่าจ้าง 2 เดือน แต่ถ้าหากจ่ายเงินสมทบ 10 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้าง 6 เดือน
- กรณีเสียชีวิต
เงื่อนไข:
- สาเหตุการเสียชีวิต จะต้องไม่เกิดจากการทำงาน
- คุณจะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน
สิทธิประโยชน์:
- ได้รับค่าทำศพ 40,000 บาท และได้รับเงินสงเคราะห์ ในกรณีที่จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน จะได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้าง 2 เดือน แต่ถ้าหากจ่ายเงินสมทบ 120 เดือนขึ้นไป จะได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้าง 6 เดือน
- กรณีสงเคราะห์บุตร
เงื่อนไข:
- คุณจะต้องส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือน
- เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
สิทธิประโยชน์:
- ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรแบบ “เหมาจ่าย” เดือนละ 400 บาท ตั้งแต่บุตรอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ (ขอสิทธิ์ได้ไม่เกิน 3 คน)
- กรณีชราภาพ
เงื่อนไข:
- บำนาญชราภาพ
- คุณต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 180 เดือน (ไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน)
- ต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนประกันสังคมสิ้นสุดลง
- บำเหน็จชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
- ต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
- ความเป็นผู้ประกันตนประกันสังคมสิ้นสุดลง
สิทธิประโยชน์:
- บำนาญชราภาพ
- หากจ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 180 เดือน จะได้รับเงินชราภาพเป็นรายเดือน อัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้าง เป็นเวลา 60 เดือนสุดท้าย
- หากจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน จะได้รับรับการปรับเพิ่มบำนาญชราภาพ อัตราร้อยละ 5 สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเกินทุก ๆ 12 เดือน
- บำเหน็จชราภาพ
- หากจ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เท่ากับเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่าย
- หากจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับเงินสมทบที่ผู้ประกันตน และนายจ้างจ่าย
- กรณีถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 10 เท่าของเงินเดือนที่ได้รับในเดือนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต
- กรณีว่างงาน
เงื่อนไข:
- คุณจะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
- มีระยะเวลาว่างงาน 8 วันขึ้นไป
- ต้องไม่ถูกเลิกจ้างในกรณี ดังนี้ ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจให้นายจ้างได้รับความเสียหาย ทำผิดกฎหมายในกรณีร้ายแรง ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร หรือได้รับโทษจำคุก ตามคำพิพากษา
- ไม่ใช่ผู้ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ
สิทธิประโยชน์:
- กรณีถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินทดแทน ปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยไม่เกิน 15,000 บาท
- กรณีลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง จะได้รับเงินทดแทนปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ยไม่เกิน 15,000 บาท

หมายเหตุ
ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ว่างงาน ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดก็ตาม คุณจะต้อง “ขึ้นทะเบียน” เป็นผู้ว่างงานผ่านเว็บไซต์ “กรมการจัดหางาน” ของรัฐ มิเช่นนั้นสิทธิประโยชน์ทั้งหมดจะถือเป็นโมฆะ
ซึ่งจากที่กล่าวไปทั้งหมดเมื่อข้างต้นจะเห็นได้เลยว่า การส่งเงินสมทบประกันสังคมเข้ากองทุนเป็นประจำทุกเดือน คุณจะได้รับสิทธิพิเศษตามกรณีต่าง ๆ โดยทันที นอกจากนี้คุณยังสามารถเช็กสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เว็บบาคาร่ามีแจกหนักททุกวัน แบบฟอร์มสำหรับใช้ในการยื่น เงินที่คุณถูกหักเข้ากองทุน และอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านเว็บไซต์ของประกันสังคมโดยตรงได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ขอบคุณรูปภาพจาก momotaro